10/28/2007

หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์


ประวัติ
หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปเก่าที่ขุดพบโดยบังเอิญในขณะที่กรมชลประทานได้ขุดคลองชลประทาน “ระพีพัฒน์” เมื่อวันจันทร์ที่ ๒ ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีกุน เดือน ๑๒ พุทธศักราช ๒๕๐๒ องค์หลวงพ่อเป็นดิน ตั้งอยู่บนคันคลองระพีพัฒน์ฝั่งขวาหันหน้าลงน้ำทางทิศตะวันออก ปัจจุบันองค์หลวงพ่อประดิษฐานอยู่ที่ หมู่ ๓ ตลาดหนองตาโล่ บ้านหนองตาโล่ ตำบลคชสิทธิ์ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ก่อนที่จะพบองค์หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์นั้น บริเวณดังกล่าวเป็นเนินดินที่มีระดับสูงกว่าองค์หลวงพ่อ และมีเฉพาะทางคนเดินแคบๆเท่านั้น (คลองระพีพัฒน์ขุดในสมัยรัชกาลที่ ๕) ต่อมาได้มีคนงานชลประทานประตูน้ำพระเอกาทศรถมาขุดดินที่เป็นเนินนั้นไปถมริมตลิ่งที่น้ำเซาะพัง หลังจากที่คนงานได้ขุดดินมาแล้วหลายวัน จนไปถึงบริเวณที่องค์หลวงพ่อประดิษฐาน ซึ่งเป็นดินที่แข็งมากผิดไปจากบริเวณอื่นทำให้คนงานขุดดินไม่เข้า จึงแต่ได้ขุดดินไปรอบๆเท่าที่พอจะขุดได้ หลังจากนั้นดินก็ได้แตกออกเป็นรูปพระโดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นองค์หลวงพ่อ เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวเข้าก็มามุงดูกันเป็นจำนวนมาก บางคนก็พูดว่าพระพุทธรูปมาเกิด แต่บางคนคิดไปว่าคนงานชลประทานปั้นองค์พระขึ้นมากันเอง พอตกตอนเย็น นางฝอยชาวบ้านคนหนึ่งที่อาศัยอยู่หลังตลาดหนองตาโล่ ได้เดินผ่านมาทางองค์หลวงพ่อหลังจากไปรับจ้างหาบข้าวลงเรือเจ็ดอาร์เพื่อที่จะกลับบ้าน นางฝอยไม่ได้คิดว่าดินที่เห็นเป็นรูปพระนั้นจะเป็นองค์พระจริงๆ จึงได้เอาเปลือกอ้อยแทนธูปและเอาใบมะขามเทศแทนทองมาไหว้เป็นการล้อเลียนแล้วก็เดินทางกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันถึงบ้านนางฝอยก็เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง จึงนึกขึ้นได้ว่าไปไหว้ล้อเลียนองค์พระนั้นเข้า และเมื่อนางฝอยได้จุดธูปกราบขอขมาหลวงพ่อ อาการปวดหัวก็หายไปในทันที

ตอนเย็นวันเดียวกัน คุณยายเกลี้ยง สุขเจริญ หรือยายหนู ที่บ้านอยู่ใกล้องค์หลวงพ่อ ก็กลายเป็นคนเทียมทรงขึ้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน ชาวบ้านจึงพากันมามุงดูกันอย่างเนืองแน่น มีผู้สอบถามหลวงพ่อว่ามาจากไหน หลวงพ่อบอกว่ามาอยู่ที่นี่เมื่อ ๒ สมัยแล้ว มาคล้องช้างอยู่สามวันไม่ได้ช้าง และขณะที่นอนหลับอยู่ที่แคร่บนต้นไม้พระเครื่องได้ตกหล่นลงมาแต่ก็หาไม่เจอ ต่อมาภายหลังจึงได้มีคนเอาดินมาถมในบริเวณนี้ (คลองระพีพัฒน์ใช้คนขุดเอาดินขึ้นมาถมเมื่อประมาณ ๗๐ ปีก่อน) ยายหนูถามหลวงพ่อว่าชื่ออะไร หลวงพ่อบอกว่าหากบอกชื่อให้แล้วให้ทำตามสัญญาได้ไหม ยายหนูบอกว่าทำให้ได้ หลวงพ่อจึงบอกว่าให้นิมนต์พระ ๕ วัดมาสวด ให้ตั้งศาลเพียงตา ให้ทำขันธ์ ๕ ทุกๆ วัน และจัดงานกลางเดือน ๑๒ ประจำทุกปี แล้วหลวงพ่อก็บอกว่าท่านชื่อ "สำเร็จศักดิ์สิทธิ์" ใครมากราบไหว้ทำอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์และสำเร็จทุกอย่างตามที่คิดไว้ ขณะเดียวกันชาวบ้านอีกจำนวนมากที่มามุงดู ก็เอาขันน้ำมาให้ทำน้ำมนต์แล้วเอากลับไปบ้าน พอเอาน้ำมนต์ใส่ลงในโอ่งน้ำ น้ำในโอ่งก็เกิดมีเสียงดังจิ๊ดๆๆๆ ทั้งๆที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และเป็นเช่นนี้ของทุกคนที่เอาน้ำมนต์ไป ต่อมายายเง็กกับชาวบ้านในตลาดได้ว่าจ้าง นายทวี ดารารัตน์ (ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว) มาโบกปูนซีเมนต์ที่องค์หลวงพ่อ แต่กรมชลประทานในสมัยนั้นไม่ยินยอมให้ทำโดยอ้างว่ากีดขวางทางคมนาคม และขอให้ชาวบ้านโยกย้ายองค์หลวงพ่อไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อก็ไม่ยอมไปและไม่มีใครกล้าย้าย จึงได้ทำการโบกปูนซีเมนต์ที่องค์หลวงพ่อต่อจนสำเร็จ

ในปี ๒๕๐๕ กรมชลประทานมีคำสั่งให้เอารถมาขุดปรับทาง และทำถนนบนคันคลองจากท่าหลวงถึงอำเภอหนองแค ระหว่างทางที่จะถึงองค์หลวงพ่อรถได้ขุดไปรอบๆฐานจนเกือบจะถูกองค์หลวงพ่อ ก็ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นทันที โดยฟ้าได้ผ่าลงมากลางวันแสกๆทั้งๆที่ปราศจากเมฆฝน ทำให้คนขับต้องรีบหยุดรถแล้วกระโดดลงมากราบขอขมาหลวงพ่อ และไม่กล้าขุดดินใกล้องค์หลวงพ่ออีกต่อไป ชาวบ้านจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใส เชื่อกันว่าหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยต่างก็เชื่อกันว่าสามารถปกป้องกันภัยได้ทุกอย่าง ใครมาบนบานขออะไรก็จะได้รับแต่ความสุข ความสมหวัง และสมความปรารถนากันทั่วทุกคน สมกับชื่อของหลวงพ่อจริงๆ หลวงพ่อท่านจึงเป็นพระพุทธรูปที่ชาวสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสมาก ทุกๆปีในกลางเดือน ๑๒ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันจัดงานประจำปีขึ้น ๑๕ วัน ๑๕ คืน ตลอดจนงานปีใหม่ ก็มีการจัดงานเฉลิมฉลอง ๑๕ วัน ๑๕ คืนเช่นกัน สาธุชนท่านใดได้มาสักการบูชาหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์สักครั้ง ก็นับว่าเป็นบุญและสิริมงคลไปตลอดชีวิตนี้

อ้างอิงจาก:

No comments: